ร้าน นนท์ มหาโชค
www.pobsuk.99wat.com
0890999979
0890999979

#ให้ทั่วประเทศรู้ว่าบ้านเรามีดี ยินดีต้อนรับทุกท่านที่เยี่ยมชม สอบถามได้ที่ 0890999979 นนท์ มหาโชค

(ขณะที่คุณกำลังเลือกเช่าพระอยู่ จริงๆแล้ว พระท่านต่างหากที่กำลังเลือก คุณอยู่ เพราะเมื่อคุณเห็นพระแล้วศัทธา อาจเป็นพระท่านดลใจคุณก็ได้)
...พระบางองค์เหมาะสำหรับใครบางคน อยู่ที่คุณค่า ศรัทธา และความพอใจของแต่ละคน ราคาเพียงแต่กำหนดกันขึ้นมา สมบัติผลัดกันชมแล้วแต่จะเป็นเนื้อคู่ใคร...

 
เหรียญ พระพุทธพนมรุ้ง เนื้อทองคำ


  ส่งข้อความ

ชื่อร้านค้า
นนท์ มหาโชค
โดย
ngamkamol
ประเภทพระเครื่อง
พระเหรียญปั๊ม
ชื่อพระ
เหรียญ พระพุทธพนมรุ้ง เนื้อทองคำ
รายละเอียด
เหรียญปั๊ม เนื้อทองคำห่วงตัน
...ถือเป็นสุดยอดพิธิมหาพุทธาภิเษก ครั้งประวัติศาสตร์ของจังหวัดบุรีรัมย์ บนปราสาทหินเขาพนมรุ้ง วันที่ 19 เมษายน 2532...เชิญพระเกจิอาจารย์ดัง และพระคณาจารย์สายอีสานใต้ร่วมพิธีมากมายนับไม่ถ้วน...นับเป็นพระเครื่องประจำจังหวัดได้อีกองค์เลยครับ หายากและทรงคุณค่า สุดยอดพุทธศิลป์ โดยกรมศิลปากร...เพื่อเป็นที่ระลึกในการฉลองอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง และได้ทับหลังนารายณ์กลับคืนมา
...ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์เป็นทับหลังที่ปราสาทหินพนมรุ้ง นับเป็นโบราณวัตถุที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ที่ถูกโจรกรรมไป เมื่อราวปี พ.ศ. 2503 และถูกนำไปจัดแสดงอยู่ที่สถาบันศิลปะชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ในที่สุดชาวไทย นำโดยรัฐบาล และ หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล ก็ได้ทับหลังชิ้นนี้คืนมา ทันวันพิธีเปิดอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งพอดี ในปี พ.ศ. 2531

-พุทธศิลป์-(ด้านหน้า)
...พระตรัยรัตนมหายาน หรือที่นักเลงพระเรียกชื่อกันว่า พระนารายณ์ทรงปืน มีมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งเชื่อกันว่าเมื่อบูชาพกพาอาราธนาติดตัวแล้วหยุดอาวุธต่างๆ เช่น หยุดลูกปืน เป็นต้น พุทธลักษณะ พระปางนาคปรกประทับนั่งสมาธิ เบี่ยงซ้ายพระ พุทธองค์มีปัญญาบารมี ยื่นพระกรขวาถือพระคัมภีร์ ซ้ายถือดอกบัว เบี่ยงขวามีอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ยืนสี่กร 2 มือบนถือลูกประคำและพระคัมภีร์ 2 พระกรล่างถือดอกบัวและคนโทน้ำอมฤต รูปแบบทั้งสามอยู่ในฐานทรงกลีบบัว มีลายกระหนกปั้นแบบลายนูนต่ำเป็นศิลปะของขอม (พุทธศตวรรษที่ 15-18)

พระสมัยขอมนี้สร้างอย่างลัทธิมหายาน พระประธานองค์กลางหมายถึงพระอาทิพุทธหรือพระพุทธองค์นั่นเอง ปางนาคปรกหมายเอาตอนที่พุทธองค์เสด็จไปประทับเสวยวิมุตติ สุข ณ ร่มไม้จิก มุจลินท์ พญานาคราช จึงมาล้อมพระกายด้วยขนดวน 7 รอบ สำแดงฤทธิ์แผ่พังพานใหญ่ เพื่อปรกพระเศียรพุทธองค์ ด้วยหมายจะป้องกันหมอกน้ำค้างและแสง แดด เพื่อไม่ให้แสงแดด ลม ฝน ถูกพระวร กายของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระผู้มีพระภาค ขณะนั้นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงขัดสมาธิบนบังลังก์ รูปปัญญาบารมียืนเบี่ยงซ้าย หมายถึงว่าพระพุทธองค์ทรงปัญญายอดเยี่ยมเหนือใดๆ ในจักรวาล พระกรขวาถือพระคัมภีร์ ได้แก่พระสัทธรรมเพื่อสั่งสอนกับมวลมนุษย์ทุกรูปทุกนามให้อยู่ในศีลธรรม ละชั่ว ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ พระกรซ้ายถือดอกบัว คือพระ พุทธภูมิอันประกอบด้วย พรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา คู่กับพระสัทธรรม ตามหลักของมหายาน รูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรยืนเบี่ยงขวาสี่กรนั้น แสดงถึงการโปรดสัตว์ เพราะอว โลกิเตศวรมีปณิธานว่า ถ้าแม้นโลกยังมีสัตว์ที่กำลังประสบความทุกข์ ยากลำบากอยู่ที่ใด พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ก็จักไม่ขอปรารถนาบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ พระอวโลกิเตศวร พระพิมพ์แบบต่างๆ ของ สมัยขอม จึงปรากฏพระโพธิสัตว์มีสี่กร ความหมายเพื่อเป็นมงคล

"สี่กร" คือ 1.พระกรถือลูกประคำ หมายถึงต้องละกิเลสทั้งหลายให้หมดสิ้น และสั่งสอนกับสรรพสัตว์ทั่วจักรวาล 2.พระกรที่ถือพระคัมภีร์ คือต้องศึกษาธรรมทั้งหลายให้เจนจบ ในสากลพิภพ 3.พระกรที่ถือหม้อน้ำอมฤต หมายถึงจักต้องโปรดสัตว์ทั้งหลายให้สิ้นความยากความจน ความทุกข์ ความไม่สบายอกสบายใจ ให้มลายหายสิ้น 4.พระกรที่ถือดอกบัว หมายถึงได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว

...พระนารายณ์ทรงปืน เป็นพระพิมพ์ที่มีรูปลักษณ์เป็น "พระแผง" องค์ค่อนข้างเขื่อง ปรากฏทั้งเนื้อดินและเนื้อชิน และมีขึ้นมากมายหลายกรุ ลักษณะองค์พระจะมี "พระปางนาคปรก" เป็นประธาน ประกอบด้วย พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรและพระนางปรัชญาปารมิตา ซึ่งเป็นองค์พระโพธิสัตว์ในคติพุทธศาสนาแบบมหายาน ซึ่งเผยแพร่เข้ามาพร้อมกับศิลปะเขมรแบบบายน ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอังกอร์ธม ซึ่งทรงนับถือพุทธศาสนาแบบมหายาน และด้วยเหตุที่ประ กอบด้วยรูปเคารพถึงสามองค์ในพิมพ์เดียว บางครั้งจึงมีผู้เรียกว่า "พระตรีกาย" พร้อมกับข้อถกเถียงกันอย่างมากมายทั้งในแวดวงนักวิชาการทางด้านประวัติศาสตร์โบราณ คดี และในวงการพระเครื่องพระบูชาถึงชื่อ "นารายณ์ทรงปืน" ที่ได้รับการเรียกขานว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร

...ความเป็นจริงแล้วอาจได้ข้อสรุปเกี่ยวกับประเภทนี้ว่า เป็นงานศิลปะที่ได้รับอิทธิพลจากขอมบายนอย่างแน่นอน ด้วยลักษณะของพระพุทธรูปปางนาคปรกที่ประทับอยู่กึ่งกลางนั้นเป็นเช่นเดียวกับ "พระชัยพุทธมหานาถ" พระพุทธรูปปางนาคปรก ที่องค์ชัยวรมันที่ 7 ทรงโปรดให้สร้างขึ้นรวม 23 องค์ และพระราชทานให้นำไปประดิษ ฐานไว้ทั่วปริมณฑลแห่งอำนาจของพระองค์ ซึ่งรวมทั้งเมืองละโว้ ที่รับอิทธิพลของเขมรบายนไว้ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเรียกศิลปะเขมรในยุคดังกล่าวในชื่อ "ศิลปะลพบุรี"

...ส่วนรูปเคารพที่อยู่เบื้องขวาขององค์ประธานนั้น มีลักษณะ 4 กร ได้แก่ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ซึ่งหมายถึงผู้มองลงมาจากเบื้องบนด้วยความกรุณา หรือผู้เป็นใหญ่แห่งโลก ที่จุติจากพระธยานิพุทธเจ้าหรือพระอมิตพุทธ(ผู้มีแสงสว่างมิรู้จบ) ด้วยเหตุนี้ พระอวโลกิเตศวรจึงปรากฏรูปพระธยานิพุทธเจ้าประทับนั่งสมาธิอยู่เหนือศิราภรณ์(อาภรณ์ประดับเศียร) พระกรทั้ง 4 ทรงถือ พวงประคำ คัมภีร์ ดอกบัว และหม้อน้ำมนต์ แต่ถ้าเป็นปาง 2 กร จะทรงประทานพร และทรงถือดอกบัวสีชมพู เป็นเหตุให้ได้พระนามอีกอย่างหนึ่งว่า "ปัทมปาณี" รูปเคารพที่เหลืออยู่อีกองค์หนึ่งได้แก่ พระนางปรัชญาปารมิตา เทพีแห่งสติปัญญาและความเฉลียวฉลาด ในเทวาลัยที่มีอิทธิพลพุทธมหายานมักสร้างรูปเคารพของพระนางไว้ในครรภคฤห์ ทรงปรากฏในรูปมหาคัมภีร์ปรัชญาปารมิตาสูตร ได้ชื่อว่าเป็นพุทธมารดาแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย มีวรกายสีขาว เศียรเดียว สองพระกร อาจพบในท่าแสดงธรรมเทศนา หรือถือบัวขาบสายเดียวทั้งสองพระหัตถ์ บางครั้งพบในปาง 4 กรด้วย ถือกันว่า พระนางทรงเป็น "ศักติ" หรือ "ชายา" ของพระวัชรสัตว์ พระโพธิสัตว์ประจำองค์พระอาทิพุทธเจ้า

...คำว่า "นารายณ์ทรงปืน" นั้น สาเหตุสำคัญน่าจะมาจากการมองรูปองค์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรมีลักษณะ 4 กร เหมือนกับพระวิษณุ หรือพระนารายณ์ และพระองค์ยังทรงถือสายบัวปัทมะที่ยาวเหยียดคล้ายกับคันศรของพระนารายณ์ ครูบาอาจารย์เก่าๆ เคยเล่าว่า คนโบราณจะเรียกอาวุธที่พุ่งออกไปว่า "ปืน" เช่น เวลากล่าวถึงเทวดาหรือนางฟ้าองค์ใดทรงถือคันศรก็จะเรียกว่าทรงปืน ด้วยศรศาตราวุธมีอานุภาพร้ายแรงเหมือนระเบิดและปืน การเรียกว่า "ทรงปืน" น่าจะสื่อถึงการ "ทรงศร" ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นสายบัวชมพูหรือปัทมะขององค์อวโลกิเตศวรนั่นเอง

-พุทธศิลป์-(ด้านหลัง)
...ภาพจำหลักนารายณ์บรรทมสินธุ์บนทับหลัง เป็นภาพที่พระวิษณุ หรือพระนารายณ์บรรทมอยู่เหนือพญานาคท่ามกลางเก๊ยรสมุทร ปางดังกล่าวเรียกว่า “วิษณุอนันตศายิน-ปัทมนาภะ”-Visnu Anantasain Padmanabha เราจะเห็นนาคแผ่พังพานเหนือเศียรพระวิษณุ นาคนั้นขดตัวอยู่บันมังกรหรือมกราอีกทีหนึ่ง มีดอกบัวดอกหนึ่งผุดขึ้นมาจากท้องของพระวิษณุ โดยมีพระพรหมประทับอยู่บนดอกบัวนั้นซึ่งสังเกตได้จากสี่พักตร์ ที่ปลายพระบาทของพระวิษณุมีพระลักษมีชายาของพระองค์ประทับนั่ง ความหมายของวิษณุอนันตศายิน-ปัทมะนาภะ จึงสื่อควมหมายชัดเจนว่าพระวิษณุในปางอนันตศายนะ คือนอนบนอนันตนาคราช แสดงถึงความไม่มีสิ้นสุดของพลังอำนาจ (อนันต์คือไม่มีสิ้นสุด) ชลไศยินหมายถึงการนอนบนน้ำซึ่งในที่นี้เป็นการนอนบนทะเลน้ำนม (เกษียรสมุทร) ปัทมนาภะ แสดงถึงการสร้างโลกที่มีดอกบัว (ปัทมะ) ที่ผุดออกมาจากพระนาภี (นาภะแปลว่าท้อง) ของพระวิษณุ และมีพระพรหมหรือนาภีชะ (ผู้เกิดจากพระนาภี) ประทับบนดอกบัว พระวิษณุจะบรรทมในช่วงเวลาที่พระพรหมสร้างโลก พระพรหมเป็นผู้สร้างจักรวาล (โลกทั้งสาม) กำหนดอายุจักรวาลตั้งแต่เริ่มสร้างจนถูกทำลายเรียกว่าหนึ่งกัลป์ ซึ่งหมายถึงหนึ่งวันของพระพรหม สิ่งมีชีวิตเมื่อเกิดมาแล้วก็ตายและรอเกิดใหม่ในกัลป์ถัดไป วนเวียนกัลป์แล้วกัลป์เล่าจนครบหนึ่งร้อยกัลป์หรือร้อยวันของพระพรหม โลกทั้งสาม (สวรรค์ นรก บาดาล) จะถูกทำลายรวมถึงเทพต่างๆ เมื่อผ่านไปหนึ่งร้อยปีจะมีพระพรหมองค์ใหม่เกิดขึ้นและทำหน้าที่สร้างโลกต่อไป วนเวียนกันเช่นนี้เรื่อยไป

...สำหรับพระพรหม ซึ่งประทับเหนือดอกบัวนั้น มีสี่พักตร์ สี่กร ถัดจากองค์พระนารายณ์มาทางซ้ายบริเวณเลี้ยวของทับหลัง มีรูปหน้ากาลคายพวงอุบะขนาดใหญ่ เหนือหน้ากาลมีรูปครุฑ ใช้มือยึดนาคไว้ข้างละต้นนอกจากนี้ยังปรากฏรูปสัตว์อื่น ๆ ได้แก่ นกแก้ว ลิง และนกหัสดีลิงก์คาบช้างอยู่ด้วย

...การบรรทมสินธุ์ของพระนารายณ์นั้น คือ การบรรทมในช่วงการสร้างโลก การบรรทมแต่ละครั้งนั้น จะเกี่ยวกับยุคเวลาในแต่ละกัลป์ภาพทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ ที่ปราสาทพนมรุ้งนี้ คงได้รับอิทธิพลจากคัมภีร์วราหปุราณะ เป็นคัมภีร์ที่ให้ความสำคัญแก่ พระนารายณ์เป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่ในขณะที่พระนารายณ์ กำลังบรรทมอยู่นั้น ได้ทรางสุบินขึ้นจากพระนาภี บนดอกบัวได้บังเกิดพระพรหม และพระพรหมทรงเป็นผู้สร้างมนุษย์ และสิ่งต่าง ๆ
ราคา
JUST4SHOW
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ
0890999979
ID LINE
0890999979
จำนวนการเข้าชม
1,381 ครั้ง
บัญชีธนาคารที่ใช้ยืนยันตัวตน
ยังไม่ส่งข้อมูล